การเลือกฟิล์มรถยนต์ ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญสำหรับผู้ใช้รถ อย่างที่เราทราบกันอยู่แล้วว่าฟิล์มรถยนต์มีส่วนช่วยในการกรองแสงที่จะผ่านเข้าสู่รถยนต์ได้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอุณหภูมิสูงตลอดทั้งปี ทำให้การติดฟิล์มกรองแสงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ใช้รถจำเป็นต้องติด ซึ่งตามท้องตลาดก็มีฟิล์มหลากหลายยี่ห้อและรุ่นให้เลือกซื้อมากมายตามความพึงพอใจของผู้ใช้งาน
ข้อแนะนำในการเลือกฟิล์มกรองแสง
1. การพิจารณาคุณภาพ ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่ดีควรได้รับเกณฑ์จากโรงงานที่ผลิตและได้รับมาตรฐานจาก AIMCAL (ASSOCIATION OF INDUSTRIAL METALLIZERS COATERS AND LAMINATORS), ASTM (AMERICAN SOCIETY FOR TESTING AND MATERIALS) และ ASHRAE ซึ่งฟิล์มกรองแสงที่ได้รับการรับรอง จะเป็นส่วนช่วยการันตีถึงคุณภาพของฟิล์มนั้น ๆ เช่น % การช่วยลดความร้อน % การสะท้อนแสง และ % การช่วยลดรังสี
2. แหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ สามารถพิจารณาคุณภาพของฟิล์มกรองแสงได้ง่าย ๆ จากการดูแหล่งการรับรองการผลิตที่ชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้ ฟิล์มที่มีคุณภาพส่วนมากจะเป็นไปตามมาตรฐานจาก ISO 9001 ซึ่งเป็นระบบควบคุมคุณภาพและการออกแบบที่ได้รับมาตรฐานสากล
3. ราคาและการโฆษณา ในปัจจุบันฟิล์มกรองแสงนั้นมีให้เลือกหลากหลายประเภท และยี่ห้อด้วยกัน ส่วนมากราคาของแต่ละยี่ห้อจะใกล้เคียงกัน (หากเทียบตามรุ่น) ซึ่งราคาฟิล์มที่ได้รับมาตรฐานต้องมีราคาที่สมเหตุสมผล และปราศจากการโฆษณาชวนเชื่อเกินความเป็นจริง ผู้ใช้งานควรยึดจากมาตรฐานที่กำหนดไว้ รวมไปถึงการดูค่าการลดความร้อนรวม (Total Solar Energy Rejected – TSER) ร่วมด้วย เพื่อเป็นการพิจารณาอีกประการหนึ่ง
4. คุณสมบัติของกาว ฟิล์มกรองแสงที่ดีต้องพิจารณาจากคุณสมบัติของกาวด้วย กาวที่ดีต้องมีความบางใสและเหนียว เมื่อติดแล้ว ต้องทนทานต่อสภาวะความร้อนเย็นของกระจกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ยึดติดกับกระจกได้ดี ไม่ทำให้ฟิล์มกรองแสง พอง ลอก ล่อน เป็นฟองอากาศ กาวที่ดีควรมีคุณสมบัติที่ติดแน่นกับเนื้อฟิล์ม เมื่อต้องการลอกฟิล์มออกมา กาวควรอยู่บนด้านฟิล์มมิใช่ด้านกระจก รวมทั้งกาวจะต้องไม่เปลี่ยนสี ซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนสีของฟิล์มที่ติด ที่เรียกว่าฟิล์มเป็นสนิม
หากเพื่อน ๆ จะติดฟิล์มรถยนต์ทั้งทีก็ต้องเลือกที่มีคุณภาพดี และเหมาะสมกับการใช้งานนะครับ
Comments